การสรงน้ำพระบรมสารีริกธาตุ
ข้อมูลจาก www.relicsofbuddha.com โดย คุณนกยูงบังไพร (คุณปี) ภาพประกอบจาก Internet
การสรงน้ำพระบรมสารีริกธาตุ การสรงน้ำพระบรมธาตุ การสรงน้ำพระบรมธาตุ มักจะทำในวันที่มีงานฉลองพระธาตุประจำปี ถ้าสามารถนำพระธาตุออกมาได้ เช่นที่ พระธาตุจอมทอง ก็จะมีการสรงน้ำพระบรมธาตุ แต่ส่วนใหญ่พระบรมธาตุจะบรรจุไว้ใต้ฐานหรือภายในองค์พระเจดีย์ การสรงน้ำจึงเป็นการสรงน้ำไปบนองค์พระเจดีย์ อาจมีการทำสายเพื่อชักดึงถังน้ำขึ้นไปถึงยอดเจดีย์ อานิสงค์การสรงน้ำพระธาตุ - เย็นกายเย็นใจ ดับทุกข์กังวลเรื่องร้อนรุ่มกลุ้มใจต่างๆ - ขัดเกลาจิตใจ ร่างกายให้ผ่องใส สดชื่น สะอาด บริสุทธิ์ ปราศจากมลทิน - อานิสงค์นี้สามารถแผ่ให้บรรพบุรุษ ญาติมิตร สรรพสัตว์ สรรพวิญญาณทั้งหลายได้เป็นอย่างดี - บางครั้ง มักจะมีพระบรมธาตุจะเรืองแสง ฉายรัศมี หรือกระจายฉัพพรรณรังสี และวิมุตติธรรมมายังผู้สรงน้ำ นับเป็นมหาสิริมงคลยิ่ง วิธีการ มีหลายลักษณะ ก. อัญเชิญพระธาตุไว้ในภาชนะ เช่น พานทอง พานแก้ว (อาจจะอยู่ในผอบบนพานอีกทีก็ได้) แล้วสรงน้ำ ข. เทน้ำที่จะสรงในภาชนะ เช่น พาน ผอบแก้ว แล้วอาราธนาพระธาตุลงสรง ค. เอาผ้าขาวเนื้อดีปูบนภาชนะ เช่น พาน แล้วอาราธนาพระบรมธาตุไว้บนผ้าขาว เทน้ำสรงพระธาตุ น้ำจะผ่านผ้าขาวลงมาอยู่ในพาน ถือเป็นน้ำมนต์ใช้อาบกินได้ คำอาราธนาพระธาตุออกสรงน้ำ โย สันนิสินโน วรโพธิมูเล มารัง สะเสนัง สุชิตัง วิเชยยะ สัมโพติ มาคัจฉิ อนันตญาโณ โลกุตตโม ตัง ปะณะมามิ พุทธัง สาธุ โอกาสะ ข้าแต่องค์พระมหาชินธาตุเจ้า วันนี้เป็นวันดีดิถีอันวิเศษ เหตุว่าสมณะและผู้ศรัทธาทั้งหลายได้ขวนขวายตกแต่งน้อมนำมาซึ่งประทีบบุปผาข้าวตอกดอกไม้ลำเทียนและน้ำสุนโธทกะ เพื่อว่าจะมาขออาบองค์สระสรงยังองค์พระมหาชินธาตุเจ้า สาธุ โอกาสะ มยัง ภันเต ทีปปุปผาลาชทานัง อเภขขอสาธารณะ สัพพะ โลกิยโลกุตตะระมัคคผล นิพพานปัจจโย โหตุ โน นิจจัง น้ำสำหรับสรงพระบรมธาตุ ควรเป็นน้ำที่สะอาดที่สุดเท่าที่หาได้ สมัยโบราณมักใช้น้ำศักดิ์สิทธิ์จากถ้ำหรือแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ ปัจจุบัน ถ้าเป็นฆราวาสใช้น้ำกลั่นหรือน้ำสะอาดที่สุดเท่าที่จะพึงหาได้ ก็นับว่าใช้ได้ อาจจะประทินของหอม เช่น ลอยดอกมะลิ เจอน้ำอบอ่อนๆ ก็ได้ คำอธิษฐาน "ด้วยอานิสงค์แห่งการชำระล้างอกุศลธาตุ (เช่น ฝุ่น ละออง) ออกจากพระอริยธาตุอันบริสุทธิ์ ขอบารมีธรรมแห่งพระธาตุจงช่วยชำระล้างอกุศลธาตุและอกุศลธรรมออกจากขันธ์ ๕ ของข้าพเจ้าและทิศทั้ง ๖ ของข้าพเจ้าด้วยเทอญ พุทธัง วันทามิ ธัมมัง วันทามิ สังฆัง วันทามิ"
