test วัดสันติธรรม : Santidham : นครเชียงใหม่

โครงการบูรณปฏิสังขรณ์พระสันติเจดีย์ มรดกทางวัตถุธรรมของหลวงปู่สิม พุทธาจาโร

โครงการบูรณพระสันติเจดีย์

ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมกันรักษามรดกสมบัติ ของพ่อแม่ครูอาจารย์ 

หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร หลวงพ่อมหาทองอินทร์ กุสลจิตฺโต และคณะศรัทธาผู้ก่อตั้งวัดสันติธรรมทั้งหลาย 
ร่วมกันเป็นเจ้าภาพบูรณพระสันติเจดีย์ วัดสันติธรรม ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ 
เพื่อฉลอง ๒,๖๐๐ ปี พุทธชยันตี พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ธรรม

โอวาทธรรมของหลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร 
บูรณปฏิสังขรณ์คือรักษาดวงตาธรรมไว้ให้ลูกหลาน

อย่าปล่อยวาง เสียจนวัดร้าง โดยไม่มีผู้เอาใจใส่ดำรงศาสนาไว้สืบต่อไปเผื่อชนรุ่นหลัง เมื่อตนยังมีชีวิตอยู่ ก็เป็นที่สักการบูชา ที่ไหน ปรักหังพังก็จงบูรณะขึ้น อย่าปล่อยให้วัดเสื่อมโทรม เป็นการไม่สมควร เมื่อไม่สุดวิสัย ก็จงบูรณะ ไว้ในวัดปฏิสังขรณ์ ไม่ว่าอารามใด ศรัทธาญาติโยมอย่าทิ้ง ดูดายหากทิ้งวัดก็เปรียบเหมือน หากผู้ใหญ่ทิ้งวัด ก็เปรียบเหมือนปล่อยให้เด็กรุ่นหลังตาฟาง ควรพิจารณาไว้บ้าง มิใช่เราจะเมิน  เราบูรณะไว้ ไม่ปล่อยให้เสื่อมโทรม ก็เหมือนดำรงศาสนาไว้ไม่ให้ทำลาย หากเราเคารพบูชา เด็กรุ่นหลังก็มาปฏิบัติตาม เช่น พระอุโบสถ พระพุทธรูป  พระสถูป พระเจดีย์ หากเราปล่อยให้ ทรุดโทรมสูญสิ้นไป ก็เปรียบเหมือนทำลาย ลูกในตาของชนรุ่นหลังดำรงศาสนาไว้เปรียบเหมือนได้เข้าเฝ้าพระองค์ เรียกว่า พวกเราพุทธบริษัทช่วยกันรักษาลูกในตาไว้มิให้เสียหรือเศร้าไป จงพิจารณาไว้ให้ดี ๆ อย่าปล่อยให้หักพังหรือร้างไป การที่เราได้ทะนุบำรุงไว้ในวัด  พระปฏิมากร พระสถูป พระพุทธรูป พระเจดีย์ กุฏิ ศาลา วิหาร สระน้ำใช้ บ่อน้ำรับประทานเป็นสมบัติอยู่ในศาสนา รักษาศีล บริจาคทาน ภาวนาบุญ ในส่วนกุศลนี้ เรียกว่าบุญบารมีเป็นกรรมดี ควรรักษาไว้ อย่าให้ เสื่อมโทรม ทะนุบำรุงไว้มิให้เศร้าหมอง เปรียบเหมือนเราได้รักษาตาของปวงชน ผู้หันเข้ามาหาแสงแห่งดวงธรรม 

พระธรรมเทศนา หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร – หนังสือ พุทธาจาโรลิขิต หน้า ๒๔๘ –๒๕๒

ประวัติการสร้างพระธาตุสันติเจดีย์

วัดสันติธรรม สร้างขึ้นบนพื้นที่เดิมของวัดร้างโบราณถึง 2 วัด คือ “วัดย่าผ้าขาว” และ “วัดกุญชร” เมื่อครั้งแรกที่พระเดชพระคุณพระญาณสิทธาจารย์ (หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร) และคณะศรัทธาชาวเชียงใหม่ ได้มาปักหลักเพื่อสร้างวัดขึ้นในพื้นที่แห่งนี้ ยังปรากฏซากอิฐเนินดินเป็นแนวอุโบสถและเจดีย์เก่าให้ได้เห็นอยู่ จากการศึกษาสามารถประมาณอายุการสร้าง 500 กว่าปี ซึ่งอยู่ในยุคของพระเจ้าติโลกราช กษัตริย์เมืองเชียงใหม่ ราชวงศ์มังราย แต่เนื่องจากเกิดสงครามจึงได้ถูกปล่อยให้รกร้าง ดังนั้นต่อมาภายหลัง พระนพีสีพิศาลคุณ (หลวงปู่มหาทองอินทร์ กุสลจิตฺโต) และศรัทธาญาติโยมได้มีดำริสร้างเจดีย์ขึ้นเพื่อให้เป็นหลักชัยของวัดสันติธรรม จึงได้ช่วยกันสร้าง “พระธาตุสันติเจดีย์ เป็นเจดีย์เหลี่ยมฐานกว้าง 12 x 12 เมตร สูง 31 เมตร โดยได้สร้างอยู่บนแนวของซากโบราณสถานเดิมโดยประยุกต์แบบมาจากเจดีย์เหลี่ยม วัดกู่คำ ตำบลท่าวังตาล อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีลักษณะทางสถาปัตยกรรม เป็นเจดีย์ทรงปราสาทสี่เหลี่ยม เรือนธาตุเป็นแท่ง ซ้อนลดหลั่นกันขึ้นไป 5 ชั้น แต่ละทิศประดิษฐานพระพุทธรูปในซุ้มจระนำ รวม 60 องค์ ในแต่ละชั้นของ พระธาตุสันติเจดีย์ มีซุ้มจระนำ ด้านละ 3 ซุ้ม มีทั้งหมด 5 ชั้น ชั้นที่ 1 เป็นที่ประดิษฐานพระปางห้ามพระสมุทร ชั้นที่ 2 เป็นที่ประดิษฐานพระปางอุ้มบาตร ชั้นที่ 3 เป็นที่ประดิษฐานพระปางห้ามญาติ ชั้นที่ 4 เป็นที่ประดิษฐานพระปางรำพึง ชั้นที่ 5 เป็นที่ประดิษฐานพระปางเปิดโลก บริเวณมุมเรือนธาตุแต่ละชั้นประดับด้วยสถูปิกะ เจดีย์จำลองทุกมุม ส่วนยอดเป็นบัวกลุ่ม คาดด้วยลูกแก้วอกไก่ ถัดไปเป็นปัทมบาทรับปลียอด และฉัตรโลหะซึ่งเป็นที่ยอมรับกันว่า รูปแบบของเจดีย์ เหลี่ยมนั้นรับอิทธิพลมาจากกู่กุด หรือสุวรรณจังโกฏิเจดีย์  วัดจามเทวี จังหวัดลำพูน อันเป็นสถาปัตยกรรมสมัยหริภุญไชย  จึงนับได้ว่าพระธาตุสันติเจดีย์เป็นเจติยวิหารที่ได้รับการออกแบบให้สืบทอดความงามด้านศิลปกรรม สถาปัตยกรรม และวัฒนธรรมอันเก่าแก่ของอาณาจักรล้านนา 

เริ่มวางศิลาฤกษ์โดยพันตำรวจเอกนิรันดร ชัยนาม ผู้ว่าราชการจังหวัด เชียงใหม่ เมื่อวันอังคารที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2514 เวลา 8.15 น.  พระราชวินยาภรณ์ (พระพุทธพจนวราภรณ์ (จันทร์ กุสโล) ) วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์

วันเสาร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2519  พระราชวินยาภรณ์  (พระพุทธพจนวราภรณ์ (จันทร์ กุสโล)) วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร เป็นประธานทำบุญยกยอดฉัตรสันติเจดีย์

santijadee036 

ระหว่างวันที่ 14-16 มีนาคม พ.ศ. 2519 จัดงานทำบุญฉลองพระธาตุสันติเจดีย์ วันที่ 14 มีนาคม มีการเจริญพระพุทธมนต์และประกอบพิธีเบิกเนตรพระที่สร้างใหม่ตรงกลางพระธาตุหันหน้าออก 4 ทิศ

santijadee008

วันจันทร์ ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2519 เวลา 19.00 น. สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก (วาสน์ วาสนมหาเถระ) เสด็จเป็นองค์ประธานการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุและปูชนียวัตถุไว้ที่ยอดและในองค์พระธาตุสันติเจดีย์ เจริญพระพุทธมนต์และทรงแสดง พระธรรมเทศนาอบรมกรรมฐาน 1 กัณฑ์ ซึ่งพิธีกรรมต่าง ๆ ในการสมโภชพระธาตุสันติเจดีย์นี้ ได้รับการแนะนำจากหลวงปู่ครูบาคำแสน คุณาลงฺกาโร

santijadee004santijadee040

santijadee006santijadee003

เช้าวันที่ 16 มีนาคม พ.ศ.2519 ทำบุญตักบาตรและถวายพระธาตุสันติเจดีย์และพระพุทธรูปทั้งหมด

พิธีกรรมในการวางศิลาฤกษ์และการยกฉัตรพระเจดีย์  การบรรจุพระธาตุ  ปูชนียวัตถุ  วัตถุมงคล  สิ่งของต่างๆ ในพระเจดีย์ตามประเพณีนิยมแต่โบราณกาลนั้น  เป็นเรื่องละเอียดอ่อน  แม่คิ้มได้ไปกราบนมัสการขอคำแนะนำจาก  หลวงปู่ครูบาคำแสน  คุณาลังกาโร  วัดดอนมูล  อำเภอสันกำแพง (ศิษย์ชั้นผู้ใหญ่ของหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต) หลวงปู่ได้เมตตาแนะนำลำดับพิธีการทุกอย่าง 

       

เหรียญหลวงปู่สิม  พุทฺธาจาโร รุ่น ๓ สันติเจดีย์

          ปัจจัยในการก่อสร้างได้รับบริจาคจากศรัทธาทั้งหลาย  ส่วนหนึ่งแม่คิ้มได้สำรองจ่ายเป็นเงินส่วนตัวสร้างเหรียญหลวงปู่สิม  พุทธาจาโร  รุ่นเจดีย์  ๑๗ – ๗ - ๑๗ โดยคุณชัชวาลย์  ชุติมา  เป็นผู้ติดต่อประสานงาน  ช่างเกษมเป็นผู้แกะพิมพ์  หลังจากหักต้นทุนออกแล้วเหลือเงิน  ๗๔,๕๒๘.๕๒  บาท  สมทบทุนสร้างพระเจดีย์ อนึ่งโดยคำแนะนำของช่างก่อสร้าง  ภายในองค์พระเจดีย์  ได้สร้างชั้นสองของพระเจดีย์เป็นที่เก็บน้ำ  พ.ศ. ๒๕๔๐  ซ่อมพระเจดีย์  ทำที่เก็บน้ำใหม่ที่ชั้นสามของพระเจดีย์  เพื่อเพิ่มแรงดันน้ำ  ได้ใช้ประโยชน์มาจนทุกวันนี้   และเพิ่มความสูงของยอดฉัตรเป็น ๓๕ เมตร

ความสำคัญของพระธาตุสันติเจดีย์

1.เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

2.สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก (วาสน์ วาสนมหาเถระ) เสด็จเป็นองค์ประธานการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ

3.สร้างโดยพระมหาเถระรูปสำคัญ คือ พระญาณสิทธาจารย์ (หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร) เป็นประธานที่ปรึกษาในการก่อสร้าง พระนพีสีพิศาลพิศาลคุณ (หลวงพ่อมหาทองอินทร์ กุสลจิตฺโต) เป็นประธานดำเนินการก่อสร้าง

4.เป็นเจดีย์ที่มีพุทธศิลป์เป็นเอกลักษณ์  ซึ่งมีอยู่เพียงองค์เดียวในเขตตัวเมืองเชียงใหม่

สภาพพระธาตุสันติเจดีย์ในปัจจุบัน

                พระธาตุสันติเจดีย์ได้ชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา ลายปูนปั้นบางส่วนได้หลุดกะเทาะออกไป ยอดพระเจดีย์รายได้แตกกะเทาะจนมองเห็นโครงเหล็กภายใน ระบบไฟฟ้ารอบพระเจดีย์ได้ถูกตัดขาด ทองจังโกยอดปลีไม่สมบูรณ์ พระพุทธรูปปูนปั้นมีสภาพร้าวรานแตกหักไม่เป็นที่เจริญศรัทธา ภายในห้องโถงมีรอยรั่วทำให้มีน้ำซึมเข้ามา เห็นเป็นรอยด่าง  กระจกช่องลมแตกหลายแห่ง ประตูเลื่อนก็ชำรุด มีตระไคร่น้ำและหน่อโพธิ์ขึ้นกระจายอยู่โดยรอบ

 

 

 

ปูนฉาบผิวเจดีย์รายหลุดกระเทาะออกแล้ว

 

หลอดไฟหลุดตกลงจากยอดเจดีย์ราย

ลายปูนปั้นแตกหลุดลงพื้น

 

ลายปูนปั้นแตกหลุดลงพื้น

 

องค์พระพุทธรูปในซุ้ม ชำรุดแตกร้าว

 

ปากพญานาคแตก

 

ขอบพระเจดีย์แตก

 

พระจกช่องลมแตก

 

ยอดเจดีย์รายร้าว


ทองจังโกยอดพระเจดีย์หลุดออก


พระหัตถ์และพระกรพระพุทธรูปแตกหัก

 

องค์พระพุทธรูปแตกร้าว


ขอเชิญพุทธศาสนิกชนร่วมกันบูรณพระธาตุสันติเดจีย์

                 คณะศรัทธาวัดสันติธรรมในฐานะศิษยานุศิษย์ผู้สืบทอดรักษามูลมรดกที่พระบูรพาจารย์ หลวงปู่สิมพุทฺธาจาโรและหลวงพ่อมหาทองอินทร์  กุสลจิตฺโต ท่านได้สร้างไว้ให้ลูกหลานได้ช่วยกันรักษา จึงสมควรอย่างยิ่งที่จะต้องทำการบูรณะพระธาตุสันติเจดีย์ ให้มีสภาพที่สมบูรณ์งดงามดังเดิม จึงได้มีกำหนดการที่จะเริ่มทำการบูรณปฏิสังขรณ์ ในเดือนมิถุนายน 2557 นี้ งบประมาณดำเนินการ งานโครงสร้างต่าง ๆ และลายปูนปั้น เป็นเงิน จำนวน 8,169,000 บาท ค่าหล่อพระพุทธรูป รอบองค์พระเจดีย์ 3,240,000 บาท  ค่าปูพื้นกระเบื้อง 350,000 บาท ค่าบานประตู 800,000 บาท ค่าปลียอดฉัตร 2,500,000 บาท ค่าตกแต่งภายใน 500,000 บาท  รวม ทั้งสิ้น 15,559,000 บาท

                ใช้เวลาในการบูรณะประมาณ 3 ปี จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนทุกท่าน ได้ร่วมกันสร้างมหากุศลร่วมกันบูรณะพระธาตุสันติเจดีย์ให้ยั่งยืนคงถาวรอยู่คู่พระพุทธศาสนา คู่เมืองเชียงใหม่และแผ่นดินไทยสืบไป

 

ต้นแบบบูรณะพระสันติเจดีย์

 

 

ผู้สนใจร่วมทำบุญสามารถทำบุญได้ที่สำนักงานวัดสันติธรรมโดยตรง

 

โทร. 053-221792,087-1933169, เลขา 081-6027500

หรือโอนเข้าธนาคารกรุงเทพ สาขาประตูช้างเผือก ประเภทสะสมทรัพย์

ชื่อบัญชีวัดสันติธรรม (บูรณะเจดีย์)  เลขที่บัญชี 390-4-50371-5

 

รายการร่วมทำบุญ

 

 

ที่

 

 

รายการ

 

 

ราคาทำบุญ

 

 

1

 

 

ปลียอดเจดีย์พร้อมฉัตร องค์เอก

 

 

2,500,000 บาท

 

 

2

 

 

พระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์ ชั้นที่ 1-4 จำนวน 48 องค์

 

 

องค์ละ 45,000 บาท

 

 

3

 

 

พระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์ ชั้นที่ 5 จำนวน 12 องค์

 

 

องค์ละ 90,000 บาท

 

 

4

 

 

ซุ้มโขงประดิษฐานพระพุทธรูป จำนวน 60  ซุ้ม

 

 

ซุมละ 35,000 บาท

 

 

5

 

 

เจดีย์บริวาร 20 องค์ พร้อมฉัตร

 

 

องค์ละ 45,000 บาท

 

 

6

 

 

เสาหลัก ซ้าย จำนวน 4 เสา

 

 

เสาละ 50,000 บาท

 

 

7

 

 

เสาหลัก ขวา จำนวน 4 เสา

 

 

เสาละ 50,000 บาท

 

 

8

 

 

เสาปีกนก ซ้าย จำนวน 4 เสา

 

 

เสาละ 35,000 บาท

 

 

9

 

 

เสาปีกนก ขวา จำนวน 4 เสา

 

 

เสาละ 35,000 บาท

 

 

10

 

 

โครงสร้างม้าต่างไหมปีกนก ซ้าย จำนวน 4 ชุด

 

 

ชุดละ 40,000 บาท

 

 

11

 

 

โครงสร้างม้าต่างไหมปีกนก ขวา จำนวน 4 ชุด

 

 

ชุดละ 40,000 บาท

 

 

12

 

 

โครงสร้างม้าต่างไหม  จำนวน 4 ชุด

 

 

ชุดละ 80,000 บาท

 

 

13

 

 

หน้าแหนบปีกนก ซ้าย จำนวน 4 ชุด

 

 

ชุดละ 50,000 บาท

 

 

14

 

 

หน้าแหนบปีกนก ขวา จำนวน 4 ชุด

 

 

ชุดละ 50,000 บาท

 

 

15

 

 

นาคทัณฑ์เล็ก ซ้าย จำนวน 4 ชุด

 

 

ชุดละ 5,000 บาท

 

 

16

 

 

นาคทัณฑ์เล็ก ขวา จำนวน 4 ชุด

 

 

ชุดละ 5,000 บาท

 

 

17

 

 

หน้าแหนบกลาง จำนวน 4 ชุด

 

 

ชุดละ 100,000 บาท

 

 

18

 

 

โก่งคิ้วกลาง จำนวน 4 ชุด

 

 

ชุดละ 45,000 บาท

 

 

19

 

 

โก่งคิ้วปีกนก ซ้าย จำนวน 4 ชุด

 

 

ชุดละ 25,000 บาท

 

 

 

20

 

 

โก่งคิ้วปีกนก ขวา จำนวน 4 ชุด

 

 

ชุดละ 25,000 บาท

 

 

21

 

 

ช่อฟ้ามุขทางเข้าเจดีย์ (รวมปราสาทเฟื้อง) จำนวน 4 ช่อ

 

 

ช่อละ 150,000  บาท

 

 

22

 

 

ราวบันไดหางวันปูนปั้น จำนวน  8  ข้าง

 

 

ข้างละ 10,000 บาท

 

 

23

 

 

ซุ้มโขงประตูทางเข้า 3 ซุ้ม

 

 

ซุ้มละ 50,000 บาท

 

 

24

 

 

ซุ้มหน้าต่าง 8 ซุ้ม

 

 

ซุ้มละ 45,000 บาท

 

 

25

 

 

ซุ้มศิลาจารึก 1 ซุ้ม

 

 

ซุ้มละ 45,000 บาท

 

 

26

 

 

กำแพงแก้ว 8 ห้อง

 

 

ห้องละ 45,000 บาท

 

 

27

 

 

โคมไฟมุมกำแพงแก้ว  ลูกใหญ่  4  ลูก

 

 

ลูกละ 15,000 บาท

 

 

28

 

 

โคมไฟรอบกำแพงแก้ว ลูกเล็ก  8 ลูก

 

 

ลูกละ 9,000 บาท

 

 

29

 

 

อิฐมอญ

 

 

ก้อนละ 10 บาท

 

 

30

 

 

ทราย

 

 

ลำละ 1,500 บาท

 

 

31

 

 

ปูน

 

 

ถุงละ 150 บาท

 

อานิสงส์อันเนื่องด้วยพระบรมสารีริกธาตุ 
การสร้างพระสถูปเจดีย์ เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ หรือพระอรหันตธาตุนั้น พระพุทธองค์ทรงตรัสแสดงไว้ในพระไตรปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค ว่า... ชนเป็นอันมาก ยังจิตให้เลื่อมใสว่า นี้เป็นสถูปของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น  นี้เป็นสถูปของพระปัจเจกสัมพุทธเจ้านั้น นี้เป็นสถูปของสาวกของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น นี้เป็นสถูปของพระธรรมราชาผู้ทรงธรรมนั้น พวกเขายังจิตให้เลื่อมใสในสถูปนั้นแล้ว เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ ... ฯ 
อานิสงส์การทำบุญกับพระบรมธาตุ จากหนังสือพระธาตุเจดีย์และรอยพระพุทธบาทอันศักดิ์สิทธิ์ในประเทศไทย (บางส่วน)
๑. ถวายฉัตรยอดพระเจดีย์ - ส่งผลให้ได้รับการเคารพยกย่อง เกิดในตระกูลสูง มีสง่าราศี
๒. ถวายทองคำ - อานิสงส์ให้ผิวพรรณงามเปล่งปลั่ง บริบูรณ์มั่งคั่ง
๓. ถวายอิฐ หิน ปูน ทราย - ส่งผลให้มีชีวิตมั่นคง จิตใจหนักแน่น ไม่โลเล
๔. สร้างองค์พระเจดีย์ - ส่งผลให้ได้รับสิ่งที่พึงปรารถนา สุขภาพดี ไม่มีอด
๕. ถวายแผ่นดินปูพื้นเจดีย์ - ส่งผลให้มีบริวารดี มีสมาธิดีขึ้น มีเวลาปฏิบัติธรรมมากขึ้น
๖. ถวายกระจกสีประดับองค์พระเจดีย์ - ทำให้กายทิพย์สว่าง มีสง่าราศี เป็นที่ศรัทธาแก่คนทั่วไป เห็นความดีในตัว
๗. เป็นเจ้าภาพ หรือมีส่วนช่วยจัดงานฉลองพระธาตุ - ทำให้ประสบความสุขในชีวิต อุดมมั่งคั่ง เป็นที่เคารพยกย่องมีคนช่วยเหลือเสมอ
๘. บูรณะซ่อมแซมเจดีย์พระบรมธาตุ - อานิสงส์ให้สุขภาพดี อายุยืน บุคลิกผิวพรรณดี ฐานะมั่นคง
๙. ถวายพระบรมธาตุเพื่อบรรจุในเจดีย์ - มีอานิสงส์เป็นที่เคารพยกย่อง มีความสุข สมความปรารถนาในชีวิต ประสบแต่สิ่งดี ได้อริยมรรคผลนิพพานเร็วขึ้น
๑๐. เมื่อใกล้ดับขันธ์ไม่หลงลืม
๑๑. ย่อมได้เกิดในประเทศที่เหมาะสมสำหรับสร้างบารมี
๑๒. ย่อมไปบังเกิดในสวรรค์เมื่อยังไม่หมดกิเลสในพระพุทธศาสนา 
๑๓. ย่อมได้ดวงตาเห็นธรรม บรรลุมรรคผล นิพพานโดยง่าย

 

รายชื่อเจ้าภาพสร้างพระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์ เพื่อประดิษฐานรอบสันติเจดีย์ ทั้ง 5 ชั้น ชั้นละ 12 องค์ รวมทั้งหมด 60 องค์ ชื่อผู้จองเป็นเจ้าภาพ ดังนี้

http://www.santidham.com/main.php?module=activity&op=detail&news_id=39

รายชื่อเจ้าภาพ สร้างเจดีย์บริวารพระธาตุสันติเจดีย์บรรจุพระธาตุพระอรหันตสาวก ทำบุญองค์ละ 45,000 บาท มีทั้งหมด 20 องค์ รายชื่อเจ้าภาพ ดังนี้

http://www.santidham.com/main.php?module=activity&op=detail&news_id=40














ประกาศเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2555 : 21.27 น.