test วัดสันติธรรม : Santidham : นครเชียงใหม่

พระครูโกวิทสารวิมล (หลวงปู่จันทร์ โกวิโท)
2477-ปัจจุบัน
วัดบ้านหนองโจด จ.ขอนแก่น

 

พระครูโกวิทสารวิมล (หลวงปู่จันทร์ โกวิโท)

"พระครูโกวิทสารวิมล" หรือ "หลวงปู่จันทร์ โกวิโท" เป็นพระเกจิที่ชาวเมืองขอนแก่นให้ความเลื่อมใสศรัทธา สืบทอดวิทยาคมตำรับไสยะอีสานโบราณใหญ่ เจ้าตำรับเรือมหาลาภและกุมารทองเรียกทรัพย์ 

ปัจจุบันสิริอายุ 78 พรรษา 55 ดำรงตำแหน่งวัดจันทรังษี บ้านหนองโจด อ.พล จ.ขอนแก่น

อัตโนประวัติ มีนามเดิมว่า จันทร์ แซ่ตั้ง เกิดเมื่อวันที่ 14 มกราคม 2477 ที่บ้านหนองแลน ต.ลอมคอม อ.พล จ.ขอนแก่น มีพี่น้อง 5 คนท่านเป็นบุตรคนโต 

ชีวิตในวัยเด็ก เป็นคนที่เรียบง่าย อ่อนน้อมถ่อมตน นิสัยชอบเข้าวัดฟังธรรม 

กระทั่งอายุย่าง 20 ปี ได้เกณฑ์ทหาร

อายุ 23 ปี เข้าพิธีอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดเรไร บ้านหนองแวงห้วยทราย ต.ละหารนา อ.แวงน้อย จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2500

หลังอุปสมบท มุ่งมั่นศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรม รวมทั้งเรื่องการศึกษาวิทยาคม 

ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ.2507 ที่วัดไพบูลย์ ต.ทางขวาง อ.แวงน้อย จ.ขอนแก่น เป็นผู้นำชาวบ้านให้ร่วมพัฒนาวัดพัฒนาท้องถิ่นสามารถปรับพื้นที่ว่างเปล่าให้มีน้ำใช้เพื่อการเกษตรและมีสภาพแวดล้อมที่ดี จนมีสัตว์ป่านานาชนิดมาอาศัยใกล้บริเวณนั้น

ต่อมาในปี พ.ศ.2510 ท่านได้ย้ายไปเป็นเจ้าอาวาสวัดศรีประสิทธิ์ บ้านหนองแกมน ต.โคกสง่า อ.พล จ.ขอนแก่น พัฒนาความเจริญรุ่งเรืองให้แก่วัดนี้เป็นอย่างมาก ทั้งยังเป็นศูนย์รวมน้ำใจของชาวบ้านในละแวกนั้นและเขตใกล้เคียงมีชื่อเสียงอยู่ในระดับหนึ่ง ในแต่ละวันมีชาวบ้านต่างศรัทธามาร่วมกันทำบุญมากมาย 

พ.ศ.2515 ฝึกปรือกับพระอาจารย์สวย ปรัสโส พระเกจิอาจารย์ผู้เรืองวิทยาคม แห่งวัดสุนทราวาส ร่ำเรียนวิชามนต์มหาเมตตา กำบังตน อยู่ยงคงกระพัน 

ในยุคนั้น พระอาจารย์สวย มีชื่อเสียงโด่งดังมากในเขตบ้านโคกสง่า กล่าวกันว่า ท่านเป็นหนึ่งไม่มีสองหลวงปู่จันทร์ท่านเรียนวิชากับอาจารย์สวย จนท่านกล่าวชมว่า "วิชาเสมอกันแล้ว"

ในปี พ.ศ.2518 ท่านได้ไปศึกษาวิทยาคมกับพระอาจารย์ภูมี วัดโพธิ์ทอง ต.ชัยวาน อ.หนองหาน จ.อุดรธานี สำเร็จวิชาทำน้ำมนต์รักษาคนไข้ ตรวจดวงชะตา และในปีเดียวกันนั้นเอง ได้สำเร็จวิชาทำน้ำมนต์รักษากระดูก วิชาถอนคุณไสยจากหลวงพ่ออ้าย ชานันโท บ้านเพียปู่ ต.ชัยวาน อ.หนองหาน จ.อุดรธานี พระอาจารย์เฒ่าผู้มีฉายาว่าพระหมอหลวง เชี่ยวชาญรักษาโรคต่างๆ ทางด้านสมุนไพร ถอดถอนคุณไสย เป็นที่เลื่องลือ ใครโดนของ ผีเข้าสิงมาถึงมือพระหมอเฒ่าเป็นอันว่าหายอย่างแน่นอน 

หลวงปู่จันทร์ ได้ร่ำเรียนศิลปะวิชาต่างๆ จนเกิดความเชี่ยวชาญสามารถรับแขกเพื่อรักษาโรคแทนพระอาจารย์ทั้งสองได้ เป็นที่ไว้วางใจของทั้งสองพระอาจารย์และชาวบ้านโดยทั่วไปอย่างสูง

ต่อมาได้ย้ายไปจำพรรษาที่วัดโพธิ์ทอง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี เพื่อไปเป็นพระอาจารย์สอนพระปริยัติธรรมและอบรมวิปัสสนากัมมัฏฐาน

เรื่องราววิทยาคมหลวงปู่จันทร์ เป็นที่ร่ำลือในหมู่ลูกศิษย์ลูกหาโดยทั่วไป ทำให้วัตถุมงคลท่านจัดสร้างขึ้นเองแต่ละรุ่นไม่ค่อยเหลือให้ปรากฏในวัด ส่วนใหญ่ถูกเช่าบูชาไปไว้ในครอบครอง เพื่อความเป็นสิริมงคล ส่วนรายได้จากการเช่าบูชาล้วนแต่นำไปช่วยบำรุงพระอารามสืบมา

ด้วยวัตรปฏิบัติที่น่าเลื่อมใสศรัทธาเป็นอย่างยิ่ง เป็นที่กล่าวขวัญในหมู่ศิษย์ชาวขอนแก่นและจริยวัตรของหลวงปู่ ทำให้ท่านได้รับกิจนิมนต์ไปนั่งปรกปลุกเสกวัตถุมงคลในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและพิธี พุทธาภิเษกวัตถุมงคลสำคัญทั่วประเทศ 

ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2529 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นตรีที่พระครูโกวิทสารวิมล พ.ศ.2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท ในราชทินนามเดิม

หลวงปู่จันทร์ได้รับการเรียกขานเป็นพระเกจิเจ้าตำรับเรือมหาลาภ ที่แกะจากไม้รางหมู ทำให้ชื่อเสียงของท่านโด่งดังไปทั่วประเทศ แต่ท่านได้หยุดจัดสร้างวัตถุมงคลเป็นเวลา 2 ปี เพื่อออกท่องธุดงควัตรไปจำพรรษาอยู่เชิงเขา จ.เพชรบูรณ์ ก่อนย้ายมาจำพรรษาอยู่ที่วัดบ้านหนองโจด อ.พล จ.ขอนแก่น เนื่องด้วยได้มีญาติโยมไปนิมนต์ให้ท่านมาดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสที่ว่างลง 

ท่านเริ่มต้นพัฒนาวัด ด้วยการถมที่บริเวณวัดบ้านหนองโจดทั้งหมด จากนั้นเตรียมก่อสร้างสาธารณประโยชน์ต่างๆ อีกมากมาย จนวัดได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง 

ที่มา: วันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2555 ปีที่ 22 ฉบับที่ 7975 ข่าวสดรายวัน