หลวงพ่อเงิน พุทธโชติ
๒๓๕๓ -๒๔๖๒
วัดบางคลาน ตำบลวังตะโก อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร
นามเดิม
เงิน (สมัยนั้นยังไม่มีนามสกุล)
เกิด
วันศุกร์ ที่ ๑๖ กันยายน พ.ศ. ๒๓๕๓ ในแผ่นดินรัชกาลที่ ๒
บ้านเกิด
บ้านบางคลาน ตำบลวังตะโก อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร
บิดามารดา
นายอู๋ และนางฟัก
พี่น้อง
เป็นบุตรคนที่๔ ในจำนวนพี่น้อง ๖ คน
บรรชา
อายุ ๑๒ ปี ที่วัดกลางนา หรือวัดตองปุ คือวัดชนะสงคราม กรุงเทพฯ
อุปสมบท
อายุ ๒๒ ที่วัดชนะสงคราม โดย พระศีลวราลัยการ (พระองค์เจ้าศร) เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า พุทธโชติ
เรื่องราวในชีวิต
ท่านได้เดินทางติดตามญาติเข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯตั้งแต่อายุ ๑๑ ขวบ เมื่อบวชแล้ว
ได้ศึกษาทางด้านวิปัสสนากรรมฐาน และได้ออกธุดงค์ไปตามป่าเขาหลายแห่ง เมื่อกลับมาเมืองพิจิตรได้จำพรรษาอยู่ที่วัดบางคลานใต้ หรือวัดคงคราม ในปัจจุบัน ต่อมาได้ย้ายไปอยู่ ณ ที่ว่างบริเวณริมแม่น้ำน่าน เหนือวัดเดิมขึ้นไปราว ๕๐๐ เมตร ซึ่งก็คือ ที่ที่เป็นวัดบางคลานเหนือ หรือ วัดวังตะโก หรือวัดหิรัญญารามปัจจุบัน ท่านเป็นพระผู้มีพลังจิตสูง สามารถปัดเป่าทุกข์โศกโรคภัยให้แก่ผู้เดือนร้อนได้ จึงมีผู้คนหลั่งไหลมาขอพึ่งพามิได้ขาด
มรณภาพ
วันที่ ๒๐ กันยายน พ.ศ. ๒๔๖๒ ด้วยโรคชรา อายุ ๑๐๙ ปี
ข้อมูลพิเศษ
* ท่านเป็นพระอาจารย์อีกองค์ที่สอนวิชาอาคมให้แก่กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์
โดยได้เสด็จทางเรืองมาศึกษาวิชากสิณจากท่าน ตามคำแนะนำของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จังหวัดชัยนาท
ธรรมโอวาท :
“... คนที่ตายไปแล้ว หากคนที่มีชีวิตอยู่ เขาสามารถจดจำได้ หรือคิดถึงอยู่ ผู้นั้นได้ชื่อว่าไม่ตาย แต่คนที่มีชีวิตอยู่ กลับไม่มีใครกล่าวถึงหรือคิดถึงเลย นั่นคือผู้ตายไปแล้ว...”