test วัดสันติธรรม : Santidham : นครเชียงใหม่

ต้องมีสักวัน ที่เป็นวันของเราบ้าง

 

 

วันเดือนล่วงไป ๆ เราทำอะไรอยู่ แล้วพร้อมแค่ไหนที่จะไปกับวันนั้น

 
 
 
 
 

 

แต่งโดย

คัมภีรปญฺโญ  ภิกขุ

rooga_toni@hotmail.com

ชีวิตขณะดำรงชีพอยู่ กับอีกฟากหนึ่งซึ่งคืออะไรก็ไม่รู้ 

 แล้วอะไรเป็นตัวชี้แนะว่าทางที่เราเลือกนั้น เลือกโดยไม่รู้ตัวว่าจะทำให้เราสบายมาก ๆ หรือทุกข์ทนสุด ๆ เพราะเหตุว่า...ยศและลาภหาบไปไม่ได้แน่  เหลือไว้แต่ต้นทุนบุญกุศล  ทิ้งสมบัติเอาไว้ให้ปวงชน   แม้ร่างตนเขาก็ยังเอาไปเผาไฟ... ความไม่แน่นนอน คือ สิ่งแน่นอนหลวงปู่มั่นท่านกล่าวเอาไว้ ให้เราตระหนักว่าชีวิตของเราย่อมเกิดการเปลี่ยนแปลงตั้งอยู่ไม่นาน ปราชญ์ท่านอุปมาความตายกับชีวิตว่า...   ชีวิตขณะดำรงชีพอยู่  กับอีกฟากหนึ่งซึ่งคืออะไรก็ไม่รู้  



เมื่อไหร่จะถึงวันของเรา  พระไตรลักษณ์นี้แท้จริง พุทธศาสนาเป็นศาสนาเพื่อมนุษยชาติโดยแท้  เป็นศาสนาของศาสนา   คำสอนนั้นสอนเกี่ยวกับความจริงมาช้านานแล้ว  คือ ความจริงของโลก 


  

เราทุกคนจะต้องเจอ  มันเป็นอะไรที่ต้องพบเจออย่างจริงแท้..ที่คุณหลีกเลี่ยงมัน หรือใครก็ตามไม่ประสบกับมันนั้นไม่ได้ไม่มี   แล้วสิ่ง ๆ นั้นคืออะไร?..... คำตอบก็คือ เกิด  แก่  เจ็บ  ความตาย  มันเป็นเรื่องน่ากลัวหรือไม่อย่างไร เรากล้าที่จะเผชิญหน้ากับมันหรือไม่  หากคำตอบของคุณคือ ยังไม่พร้อม  คุณมีอะไรที่จะต้องทำก่อนถึงวันนั้นของคุณหรือไม่  ซึ่งตัวของคุณเองก็ไม่รู้ว่าวันนั้น...วันตายของคุณคือวันไหน



กาลเวลาล่วงไป ๆ บัดนี้เราทำอะไรอยู่...เราต่างมุ่งเร่งเรียนรู้ว่าเราจะประกอบอาชีพอะไร? มีความมั่นคงทางด้านเงินทอง เรียนจนไม่รู้จักจบจักสิ้น เป็นการเรียนที่มุ่งแต่เอา อันนี้ก็จะเอาอันนั้นก็จะเอา เรียนจนไม่รู้ว่าจิตใจของตนเป็นอย่างไร? พอเกิดปัญหาชีวิตขึ้นมาเลยแก้กันไม่ได้เพราะเราลืมเรียนวิชาที่สำคัญอันเป็นหน้าที่หลักไปแล้ว  หน้าที่อันดับหนึ่ง คือ หน้าที่ของใจ ทำอย่างไรใจของเราจะสงบระงับพบความสุขที่แท้จริงถาวร ทำอย่างไรให้เกิดความสุขเวลาเกิดทุกข์เกิดปัญหาเราจะแก้อย่างไร นี้สำคัญมาก  ส่วนหน้าที่รองของเรา คือ การประกอบอาชีพ เพื่อดำรงชีวิตอยู่ในโลกตามกำลังแห่งตน ดังนี้จึงจะถูกต้อง




บทกลอนเตือนสติ จงรีบเร่งทำดีให้มาก ๆ 
เพราะเงินแสนเงินล้าน คุณนำมันไปด้วยไม่ได้

"จะยากดีมีจนทุกคนสิ้น 
ช่วงชีวินไม่นานก็ผ่านผัน 
ถูกโรคร้ายรุมเร้าเข้าโรมรัน 
ต้องจาบัลย์จำยอมตรอมอุรา ..."




"ชีวิตนี้มีสาระอะไรหรือ ให้ยึดถือคงที่อย่างมีค่า 
ไม่มีเลยสักนิดอนิจจา ถึงเวลาก็ม้วยมรณ์หมดสิ้น 
นึกถึงเถิดสุดท้ายของชีวิต ไม่มีสิทธิ์จะสู้แม้อยู่ไหน 
ย่อมตกตายตามกันในทันใด หามีใครหลุดรอดปลอดพ้นเอยฯ
"

จากหนังสือ ธรรมยาตรารำลึกแดนพุทธภูมิ


ไม่เพียงแต่พุทธศาสนาที่กล่าวถึงเรื่องนี้เท่านั้น 
ในฝั่งตะวันตกเองอย่างเชคสเปียร์กล่าวว่า Life’s but a walking shadow. ตีความกันเองนะ